ห้าผู้พิชิตสุดขอบโลกคือการอัพเดทท้ายเกมอันซับซ้อนของ Path of Exile ครั้งที่สามหลังจาก War for the Atlas (ที่เพิ่มเอลเดอร์เข้ามา) และ Atlas of Worlds (ที่เพิ่มเชปเปอร์) แต่ทว่าภาคเสริมนี้ไม่เหมือนกับภาคเสริมทั้ง 2 อันก่อนหน้านี้ เนื่องจากเราไม่ได้เพียงแค่เพิ่มเนื้อเรื่องหรือแก้เนื้อเรื่องเดิมที่มีอยู่แต่เป็นการดำเนินเนื้อเรื่องต่อ ซึ่งทำให้กูเล่นได้เห็นผลลัพธ์ของภาคก่อนๆจากมุมมองบุคคลอื่น ทำไมมันถึงเป็นอย่างนั้นน่ะหรือ? ก็เพราะผมไง จะใครล่ะ!

เรามีแผนที่จะเปลี่ยนระบบท้ายเกมก่อนการเปิดห้าผู้พิชิตอยู่ 6 เดือน แต่สิ่งที่เรายังไม่รู้ก็คือจะเปลี่ยนแปลงมากน้อยแค่ไหนและควรทำอย่างไรกับเนื้อหาสมุดแผนที่เดิมดี แถมงาน ExileCon ก็ใกล้เข้ามาทุกทีด้วย และงานนี้เรามีแผนที่จะประกาศมากกว่าภาคเสริมนี้ด้วยไม่ว่าจะเป็นลีก Metamorph และภาคต่อไปของ Path of Exile ซึ่งเรากำลังเร่งพัฒนากันอย่างหนักเช่นกัน

เราจึงมาไล่ดูส่วนประกอบเนื้อหาแต่ละอันและเนื้อเรื่องสมุดท้ายเกมที่เรามีอยู่ ในตอนแรกเราคิดว่าจะเปลี่ยนแค่เนื้อหาของเนื้อเรื่องหลัก แต่สุดท้ายแล้วแนวคิดที่ดูดีที่สุดก็คือแนวคิดที่เราได้มาจากผู้เล่นของเราทุกคนนั่นคือ: เอ็กไซล์ฟาร์มแผนที่จนคลั่งไปแล้ว

การมีบทเกริ่นนำเท่ๆแบบนั้นมันก็ดูดีอยู่หรอก แต่การเขียนบทพูดที่ปะติดปะต่อกันได้อย่างลงตัวนั้นมันเป็นอีกเรื่องเลย ข้อแรกล่ะ เอ็กไซล์คนไหนดี? เขาต้องไม่ใช่ตัวละครของผู้เล่น เพราะว่าผู้เล่นจะต้องเป็นคนมาคอยเช็ดสิ่งที่เกิดขึ้นจากการกระทำของเขา เพราะฉะนั้นพวกเขาจะต้องเป็นเอ็กไซล์กลุ่มอื่นแต่จะต้องใช้เครื่องเปิดแผนที่ได้เช่นกัน (และซานะด้วย)

เราใช้เวลาจัดลำดับเหตุการณ์อยู่พอสมควร มันอาจจะต้องมีการแก้ไขเนื้อเรื่องเก่าบ้าง (ก็ช่วยไม่ได้เพราะผู้เล่นส่วนใหญ่เป็นนักฆ่าเอลเดอร์อยู่แล้วไง!) แต่เราอยากให้มีการแก้ไขน้อยที่สุดเท่าที่ทำได้

ถ้าใครได้อ่านโพสต์ของผมเกี่ยวกับการนำเนื้อเรื่องของลีกเข้าสู่เนื้อเรื่องตัวเกมหลักจะพบว่าเราได้เจอเรื่องราวที่วนซ้ำใหม่ทุกครั้งที่เปิดลีก พูดง่ายๆก็คือมันทำให้เขียนเนื้อเรื่อง‘ต่อ’จากเนื้อเรื่องหลักหรือแผนที่ได้ยาก แต่ในภาคห้าผู้พิชิตนี้เราได้ทำมันลงไปแล้ว

เราสร้างตัวละครขึ้นมาได้ค่อนข้างเร็ว สิ่งแรกที่ทุกครั้งเราต้องทำก่อนก็คือออกแบบหน้าตาของมัน ฝ่ายศิลป์มักจะไวกว่าทุกคนในสายการพัฒนาของเราเป็นเดือนๆ ส่วนตัวผมอยากให้ตัวละครเหล่านี้เกิดความบ้าคลั่งจากสาเหตุที่แตกต่างกัน ซึ่งในเวอร์ชั่นแรกที่เราสร้างขึ้นมาตัวละครเหล่านี้บ้าคลั่งมากกว่าเวอร์ชั่นปัจจุบันที่ผู้เล่นได้เล่นมาก ตัวละครแต่ละตัวจะต้องมีเหตุผลที่ถูกเนรเทศด้วยเพื่อให้พวกเขามีความเกลียดชังต่อโดมินัสและภาคีเทมพาล์แม้ว่าบางครั้งเราจะไม่ได้กล่าวถึงก็ตาม

เราใช้เวลาอยู่พอสมควรก่อนที่กลไกสมุดแผนที่แบบใหม่จะลงตัว กล่าวคือสิ่งที่ตัวละครเหล่านี้กำลังทำอยู่ เหตุผลที่ผู้เล่นจะต้องตามล่าพวกเขา และการดำเนินเรื่องราวต่างๆก็มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดในช่วงระยะเวลาดังกล่าวนี้ เวลาเราออกแบบภาคเสริมอย่างห้าผู้พิชิตนี้หากอยากให้มันสมบูรณ์แบบ เป้าหมายแรงจูงใจของผู้เล่นและตัวละครในเนื้อเรื่องจะต้องไปในทางเดียวกัน ซึ่งโดยทั่วไปจะไม่ใช่อย่างนี้ (แกนั่นแหละ War for the Atlas) ซึ่งต้องใช้เวลาและการหารือกันอยู่นาน และเนื่องจากตอนนั้น ExileCon ใกล้เข้ามาทุกทีทำให้ต้องทำ Path of Exile 2 ให้อยู่ในสภาพพร้อมรวมถึงบันทึกเกมเพลย์ของบทที่ 1 ของ PoE2 ด้วย ต้องบอกว่า... ยุ่งมากครับ

และเนื่องจากเรายุ่งมากจึงทำให้เครื่องมือในการเล่าเรื่องราวของเราไม่ถูกนำมาใช้เนื่องจากไม่ทันเวลาอย่างน่าเสียดาย ไอเทมบันทึกที่เราสร้างขึ้นเพื่อเติมเต็มช่องว่างของเนื้อหาระหว่างช่วงที่ผู้เล่นสังหารคิทาวาและการเริ่มสมุดแผนที่งั้นถูกสร้างขึ้นแล้วภายในไฟล์ของเกมแต่เราไม่ได้ตั้งให้ดรอปอย่างที่วางแผนไว้ ผลก็คือมันทำให้เหล่านักฆ่าเอลเดอร์ดู “ลึกลับ” มากเกินไป โดยเฉพาะเมื่อเราได้เสียงพากย์ดีๆจากนักพากย์มีฝีมือด้วย

แล้วมันก็ทำให้ ซีรุส ตัวละครที่ถูกเอ่ยถึงในบันทึกหลายครั้งโผล่ออกมาดื้อๆ ซึ่งปัญหานี้ก็หนักขึ้นอีกจากการยกเลิกกลไกที่ให้เขาบุกแผนที่ของผู้เล่นแทนผู้พิชิตคนอื่นในบางครั้งด้วย

ก่อนที่ผมจะไป นี่คือสาระน่ารู้ที่คุณอาจจะชอบก็ได้:

ซานะมีภารกิจมากมายหลายชนิด แล้วมีบทพูดที่ไม่เหมือนกันในแต่ละภารกิจ แม้แต่ภารกิจองครักษ์ของเชปเปอร์และเอลเดอร์แต่ละคนและแผนที่ความทรงจำแต่ละความทรงจำก็ล้วนมีบทพูดที่แตกต่างกันออกไปแทบทั้งนั้น เราได้บันทึกบทพูดของซานะคนเดียวให้กับภาคเสริม Conquerors of the Atlas มากถึง 21 หน้าเลยครับ!
โพสต์โดย 
เมื่อ
Grinding Gear Games

รายงานโพสต์

รายงานบัญชี:

ประเภทรายงาน

ข้อมูลเพิ่มเติม