![]()
Secrets of the Atlas มีการสร้างโลกและเนื้อเรื่องให้เราได้ดื่มด่ำไปอีกหลายภาคเสริมค่ะ! วันนี้เราขอให้เคน ผู้กำกับฝ่ายเสียงและการเล่าเรื่องของเรามาเจาะลึกเรื่องความซับซ้อนในการรวมองค์ประกอบต่างๆ เข้าด้วยกันค่ะ
สวัสดี! นี่เคนนะ คุณอาจรู้จักผมในฐานะผู้กำกับฝ่ายเสียงที่ GGG… ผมก็ยังมีตำแหน่งนั้นอยู่ แต่ผมก็ได้มาคุมเรื่องการเล่าเรื่องเหมือนกัน ผมคอยหยิกตัวเองอยู่เรื่อยๆ เพื่อให้รู้ว่าผมไม่ได้ฝันไป นี่มันงานในฝัน มีแต่เรื่องที่ผมชอบจริงๆ… ผมขอบอกเลย มันทำให้ผมมีความสุขจนล้นอก! เอ้อ แล้วยังไงต่อนะ? อ๋อ Secrets of the Atlas ผมขอบอกไว้ก่อนเลยนะ หากคุณอยากสัมผัสกับ Secrets of the Atlas แบบไม่ถูกสปอยล์ อย่าเพิ่งอ่านเลย จะให้ผมอธิบายเรื่องราวการพัฒนาการเล่าเรื่องโดยไม่พูดถึงเนื้อเรื่องตรงไหนเลยมันก็ยากอยู่ เดี๋ยวนี้ก็เป็นแบบนี้กัน มันเริ่มจากการที่มาร์ค (นีออน) กับผมตั้งหัวข้อว่าเราจะเล่าเรื่องพื้นฐานอะไรบ้าง สำหรับ Secrets of the Atlas มีหน้าตาประมาณนี้:
![]() หลังจากที่พูดคุยกันเบื้องต้นแล้ว เรารู้กันว่าเราเริ่มได้ชัดเจนมาก ผมก็ตื่นเต้นที่จะได้เริ่มปะติดปะต่อบทพูดและเหตุการณ์ต่างๆ เข้ากับการออกแบบเนื้อเรื่อง ประเด็นแรกเริ่มคือการสืบหาสิ่งที่ซานะกำลังทำอยู่ตั้งแต่เธอหายสาบสูญเข้าไปในแอตลาส แล้วมันก็ขยายมาเป็นสามองค์ประกอบหลักสำหรับเนื้อเรื่องของภาคเสริมนี้ โดยมีสถานการณ์ของเธอเป็นหัวใจของเรื่องราวทั้งหมด องค์ประกอบแรก: อีกอนการเข้ามาของอีกอน บุรุษลึกลับที่อ้างตนว่าเป็นน้องชายของซานะ เปิดแง่มุมมากมายให้เราได้สำรวจภารกิจของซานะ เขาก็เหมือนกับเอ็กไซล์มืออาชีพอย่างเราที่รู้เรื่องของซานะและรู้สึกว่าผูกพันกับเธอ แต่เขาก็เป็นคนแปลกหน้าในสายตาของเธอ เขาเชื่อว่าเขาจะต้องมีคำตอบที่คลี่คลายเรื่องราวคาใจเกี่ยวกับเชื้อสาย… แต่ชีวิตก็ไม่เคยมีอะไรเรียบง่าย เขาใช้เวลามาชั่วชีวิตในการสืบหาความจริงเกี่ยวกับตัวเขาและทำความเข้าใจตัวตนของเขา หรือกระทั่งสาเหตุในการมีอยู่ของเขาเอง![]() การดำเนินเรื่องไปสู่การคลายปมตัวตนของอีกอน การช่วยให้เขาปะติดปะต่อเรื่องราวนั้นทำให้เขาเป็นมนุษย์คนหนึ่งที่เข้าถึงได้ แม้ว่าเขาจะมีความเจ้ายศเจ้าอย่างจนเกินจริง (ใครๆ ก็มีข้อเสียกันทั้งนั้น) เขาก็เพียงแค่อยากเข้าใจว่าเขาเป็นใคร อยู่ที่ไหนในโลกใบนี้ และช่วยชีวิตคนที่เขาเชื่อว่าเป็นพี่สาว เสียงของอีกอน![]() เมื่อผมแคสต์ตัวละครตัวนี้ ผมรู้ว่าต้องการนักพากย์ที่เข้าถึงบุคลิกที่ไม่เหมือนใครของอีกอนและถ่ายทอดออกมาได้ถูกต้อง จากการทดลองพากย์นี้ มีเสียงพากย์หนึ่งที่ผมรู้ว่าเข้ากันได้เหมาะเจาะ ลีออน แวดแฮมทำให้อีกอนมีชีวิตขึ้นมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ องค์ประกอบที่สอง: ซานะภาคเสริมนี้มีเรื่องน่าสนใจอยู่อย่าง ซานะไม่ได้ใช้เวลาบนจอมากนัก สิ่งที่เธอสร้างให้เราได้มีโอกาสสำรวจ การทำความเข้าใจเหตุผลของเธอ เรื่องเหล่านี้เป็นตัวผลักดันเนื้อเรื่อง อีกอนค้นพบว่าซานะกำลังทดลองกับแอตลาสและเนรมิตความทรงจำและแนวคิดขึ้นมายังโลกความจริง แต่ทำไมกัน?เราได้เห็นว่าสิ่งใดมีค่ากับเธอมากที่สุดในพื้นที่ที่เราสัญจรและสิ่งมีชีวิตที่เราต่อสู้ การเผยเรื่องของซานะในลักษณะนี้มีประสิทธิภาพกว่าการพูดคุยกับเธอตรงๆ สายใยความทรงจำถูกแบ่งเป็นกลุ่มตามธีมเป็นคู่อยู่ 3 กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับความเดียวดายและการทอดทิ้ง, ความสะเทือนขวัญและความหวาดกลัว และการสักการะและความหวั่นเกรง ความเดียวดายและการทอดทิ้งเราเริ่มเข้าถึงเรื่องนี้ด้วยการเผชิญกับไซรัสในช่วงเวลาที่เราไม่คุ้นเคย สำรวจสายใยความสัมพันธ์อันลึกซึ้งระหว่างกัน และความรู้สึกผิดของเธอต่อความสัมพันธ์ที่เธอทอดทิ้งเมื่อเราสยบสายใยส่วนนี้ได้สำเร็จ เราจะได้เข้าถึง ‘ห้วงขณะเดียวดาย’ ที่เราได้เห็นซานะเป็นเด็กที่พยายามเรียกร้องความสนใจจากพ่อเธอ ห้วงขณะนี้ผันเปลี่ยนเป็น ‘รูปธรรมแห่งการทอดทิ้ง’ ที่ร่างนิมิตรูปแบบหนึ่งของพ่อเธอถูกนำเสนอเป็นอสุรกายที่เราต้องสยบเพื่อเธอ ![]() ![]() ความสะเทือนขวัญและความหวาดกลัวธีมเหล่านี้เกิดขึ้นจากการสำรวจความสะเทือนขวัญที่หลงเหลือจากพวกเทมพลาร์ และการกระทำของพวกเขาต่อเธอและพ่อของเธอ โดยมีตัวอย่างเป็นการต่อสู้กับพระคาร์ดินัลแห่งความหวาดกลัวมันเปิดทางให้เราเข้าไปใน ‘ห้วงขณะสะเทือนขวัญ’ ที่เราได้เห็นซานะเป็นเด็กที่ทำให้พ่อของเธอโกรธขึ้นมา ห้วงขณะนี้ผันเปลี่ยนเป็น ‘รูปธรรมแห่งความหวาดกลัว’ เป็นมโนภาพที่น่าสยดสยองที่พ่อของเธอไม่เคยเป็นเช่นนั้น ![]() ![]() การสักการะและความหวั่นเกรงธีมนี้ถูกแสดงออกมาในรูปแบบของอินโนเซน ที่อยู่บนเวทีหลักในฐานะผู้ที่เป็นที่เคารพแต่เป็นผู้ที่ลวงหลอกเช่นกัน ซึ่งเป็นผู้ที่ผิดคำมั่นของตนอีกราย สายใยความทรงจำนี้แสดงให้เห็นว่าแม้จะมีเจตนาดีเช่นไร การได้ครองอำนาจก็อาจทำให้เจตนารมณ์เทพองค์หนึ่งต้องสั่นคลอนได้เมื่อเราสยบอินโนเซนร่างนี้ได้แล้ว เราสามารถเข้าไปใน ‘ห้วงขณะสักการะ’ ที่เราได้เห็นซานะเป็นเด็กที่จับจ้องการปราศรัยของพ่อเธอในโอริอาท ห้วงเวลานี้เปลี่ยนผันมาเป็น ‘รูปธรรมแห่งความหวั่นเกรง’ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าชื่อเสียงทางลบและอิทธิพลของพ่อเธอส่งผลกับเธอเช่นไร ![]() ![]() เสียงของซานะ![]() ซานะกลับมาแล้วทุกคน! มันเป็นเรื่องประเสริฐจริงๆ ที่แคทเธอรีน เคนนาร์ดได้กลับมารับบทของเธออีกครั้ง แล้วเธอก็ทำได้อย่างง่ายดาย มันน่าทึ่งจริงๆ ที่นักแสดงสามารถกลับมารับบทเดิมได้หลังจากที่ผ่านมานาน แล้วจับจุดกลับมาเป็นตัวละครนั้นได้อีกครั้ง องค์ประกอบที่สาม: วาลโดหัวใจหลักของสถานการณ์ของซานะก็คือพ่อของเธออยู่เหมือนเคย แต่ความทรงจำเหล่านี้มีความหมายอะไรกับซานะ? ห้วงขณะเหล่านี้ไม่มีความหมายอะไรกับผู้ใหญ่ แต่ทิ้งร่องรอยเอาไว้ให้กับเด็กโดยถาวร อีกอนเข้าใจว่าห้วงขณะเหล่านี้เป็นสิ่งที่แอตลาสบันดาลให้ผิดเพี้ยน เป็นการถ่ายทอดความทรงจำของเด็กคนหนึ่งออกมาอย่างเหนือจริง แต่มันจริงหรือเปล่า? หรือว่าซานะจงใจให้เป็นเช่นนั้น? แล้วทำเพื่ออะไรกัน? เป็นคำถามที่ดีนะ!เสียงของวาลโด![]() เสียงและการปรากฏที่นุ่มลึกและหรูหราเช่นนั้น… ดาร์ริล ฮาเบรเคนกลับมาอีกครั้ง แต่ไม่ได้กลับมาในฐานะเชปเปอร์เสียทีเดียว คราวนี้เราได้ฟังเสียงของพ่อซานะมากไปกว่าตัวตนในอนาคตของเขา ผู้รังสรรค์เป็นใครกัน?ในที่สุด พอมาถึงตอนจบของเนื้อเรื่องส่วนนี้ เราก็รู้จุดมุ่งหมายที่แท้จริงของซานะ เรารู้ว่าสถานการณ์ของอีกอนยังคงซับซ้อนต่อไป และที่สำคัญกว่านั้น เราได้รู้ว่าเรามีอะไรให้รู้อีกเยอะ ทางผมก็ตั้งตารอคลายปมเหล่านั้นยิ่งไปกว่านี้อยู่เหมือนกันเดี๋ยวนะ… ผู้รังสรรค์เป็นใครกัน? ซานะจริงๆ[/li] ใช่ไหม? หืม… ไว้พบกันใหม่นะเพื่อนๆ! |
|