ช่วงนี้เป็นวันหยุดในนิวซีแลนด์ เราเลยไม่มีข่าวเกี่ยวกับการพัฒนาใหม่ๆในวันนี้
จากจำนวนผู้เล่น Betrayal ที่มากมายเราจึงคิดว่ามันน่าจะสนุกถ้าจะพาทุกคนย้อนอดีตไปดู Path of Exile เวอร์ชั่นเก่าๆกันค่ะ วันนี้เราจะมาพูดถึงเวอร์ชั่นเก่าตั้งแต่ Closed Beta ไล่มาจนถึง Torment และ Bloodlines ส่วนที่เหลือจะมีในข่าวของวันข้างหน้าค่ะ Path of Exile Closed Beta (0.9.0)เราได้เปิด Path of Exile Closed Beta ในเดือนสิงหาคมของปี 2011 ซึ่งตอนแรกมีเพียงแค่ 2 Actในเวอร์ชั่นแรกเริ่มนี้เราไม่มีสินค้าแฟชั่นหรือแม้กระทั่งหน้าต่างการแลกเปลี่ยน ผู้เล่นสามารถเข้าร่วมได้จาก “นาฬิกา Beta Key” ในหน้าเว็บไซต์ ซึ่งมันจะทำการสุ่มเลือกผู้เล่นเพื่อให้สามารถร่วมเล่น Beta ได้เป็นระยะๆและแสดงให้เห็นว่าใครถูกเลือก นี่คือวีดีโอแสดงให้เห็นว่าการต่อสู้ในสมัยนั้นเป็นยังไง: และในเดือนเมษายนของปี 2012 เราได้เพิ่มช่องทางการเข้าถึง Closed Beta ใน supporter pack ชุดแรกของเรา นก Diamond Kiwis ที่อยู่ในแพ็คสูงที่สุดได้กลายเป็นสัตว์เลี้ยงที่ทุกคนตามหามากที่สุดใน Path of Exile มาจนถึงทุกวันนี้ Path of Exile Open Beta (0.10.0)Open Beta ของเราในเดือนมกราคมปี 2013 คือจุดเริ่มต้นของเกมเล่นฟรี Path of Exile ที่เปิดสู่สาธารณะ โดยภาคนี้ได้เพิ่ม Act 3 ส่วนแรกเข้ามา (เล่นได้ถึงสู้กับ Piety ใน Lunaris Temple) ภาคเสริมดังกล่าวยังเป็นการรีเซ็ต Standard ของ Path of Exile อีกด้วย แล้วเรายังใช้โอกาสนี้ในการเปิดตัวสินค้าแฟชั่นนอกเหนือจากที่มาพร้อมกับ supporter packs หลังจากเปิด Open Beta มาได้ครึ่งทาง เราก็ได้เปิดลีกท้าทายแรกของเรานั่นคือ: Anarchy และ Onslaught Path of Exile Release (1.0.0)ในเดือนตุลาคมปี 2013 เราได้ปลดสถานะ Open Beta และเปิดตัวเต็มของ Path of Exile เปิดตัวภาคเสริม ครั้งนี้ได้เพิ่ม Act 3 ส่วนที่เหลือเข้ามา (พื้นที่ใหม่ 6 พื้นที่) และได้ทำให้ Dominus กลายเป็นบอสสุดท้ายของเกม นอกจากนี้เรายังได้เพิ่มระบบ กิลด์ PvP และตัวละครที่เจ็ดนั่นคือ Scion ภาคเสริมนี้ยังได้เปลี่ยนรูปแบบการเล่นของเกมโดยเพิ่มหินซัพพอร์ทประเภท trigger เข้ามาที่กลายเป็นส่วนหลักของการสร้างบิ้วมาจนถึงทุกวันนี้ ในตอนนั้นเรายังมีลีกของ Hardcore และ Standard แยกกันอยู่ โดยมีลีก Domination และ Nemesis ที่เปิดตัวพร้อมกับภาคเสริม และกลไกของพวกมันก็ยังเป็นส่วนหนึ่งของในเกมจนถึงทุกวันนี้ และเรายังได้เปิดตัวเกมบนระบบของ Steam เพื่อให้ Path of Exile เป็นที่รู้จักกับผู้เล่นทั่วโลกมากขึ้น Sacrifice of the Vaal (1.1.0)ภาคเสริมนี้เปิดตัวต้นเดือนมีนาคมปี 2014 และได้เพิ่มบอส Queen Atziri และเราบอสหมุนของเธอนับสิบๆตนที่สามารถค้นพบได้ในพื้นที่ corrupted ขณะที่ผู้เล่นได้ท้าทายตนเองโดยการประลองกับ Atziri ที่แสนโหด (และเวอร์ชั่นลับ Uber) บางทีสิ่งที่เด่นที่สุดอาจจะเป็นการเพิ่ม Vaal Orbs เข้ามาก็ได้ เพราะมันกลายเป็นส่วนหนึ่งของการคราฟและตลาดนั่นเอง ภาคเสริมนี้ยังได้เปิดพร้อมกับลีกท้าทาย Ambush และ Invasion โดยกล่องนิรภัยกลายเป็นระบบหลักของเกมไปส่วนบอสจาก Invasion จะกลับมาให้เห็นบ้างในโอกาสพิเศษ Ambush เริ่มต้นจากแผนการที่อยากทำให้ไอเท็มเคอเรนซี่สามารถใช้กับกล่องสมบัติอะไรก็ได้ในเกม แต่เราพบว่าความอยากหมุนม็อดให้ลังไม้ที่คุณเจอทุกลังมันทำให้ไขว้เขว เราจึงเปลี่ยนแผนไปเป็นการสร้างกล่องสมบัติพิเศษขึ้นมาแทน และเพื่อให้สมดุลเรื่องความเสี่ยงและของรางวัลเกิดขึ้น เราจึงเพิ่มมอนสเตอร์เข้าไป และนั่นแหละทำให้เกิด Ambush ขึ้นมา Forsaken Masters (1.2.0)ภาคเสริมนี้เปิดตัวปลายเดือนสิงหาคมปี 2014 ซึ่งได้เพิ่มมาสเตอร์เดิมทั้งเจ็ดของ Part of Exile เข้ามา พร้อมกันนี้ยังมีระบบที่ซ่อนและระบบการคราฟหลายสิบแบบให้ผู้เล่นได้ค้นหา แล้วจะกลายเป็นรากฐานสำคัญในการเก็บเลเวลตัวละคร และเราได้สร้างภาคเสริมที่เป็นที่นิยมที่สุดของ Path of Exile หรือก็คือภาคเสริม Betrayal ที่เพิ่งเปิดไป บนรากฐานที่ถูกสร้างจาก Forsaken Masters นี้ ภาคเสริมนี้ยังได้เปิดพร้อมกับลีกท้าทาย Rampage และ Beyond ที่กลไกของพวกมันยังอยู่ในระบบที่พิเศษออกไป และสกิลประเภท Herald ได้ถูกเพิ่มเข้ามาในภาคเสริมนี้! Forsaken Masters เป็นภาคเสริมที่สร้างยากมากและใช้งบประมาณการพัฒนาสูง (สำหรับ 2014 ของเรา - ถ้าเป็นสมัยนี้เราคงใช้ทุนที่ว่าหมดภายในสัปดาห์เดียว!) Rampage เป็นที่นิยมในตอนนี้มากขึ้นมากกว่าสมัยที่มันยังเป็นลีก ส่วนที่ยากที่สุดในการสร้าง Beyond คือการหาจุดสมดุลของวิธีการเสกมอนสเตอร์แบบสุ่มและการอัพเกรดวาร์ปของพวกมัน เราใช้เวลากับส่วนนี้มาก แต่เมื่อทำถูกต้องเราพบว่ามันใช้งานได้จริง เมื่อเปิดตัว ปัญหาใหญ่ที่สุดที่พบก็คือมอนสเตอร์ ที่มีการฟื้นฟูพลังชีวิต ทำให้มอนสเตอร์แรร์ Beyond บางตัวถึงขั้นเป็นอมตะ Torment and Bloodlines (1.3.0)ลีกท้าทาย Torment และ Bloodlines เป็นส่วนสำคัญของอัพเดท 1.3.0 ที่เปิดตัวในเดือนสิงหาคมปี 2014 มันคือส่วนหนึ่งของภาคเสริมเวอร์ชั่น 1.3.0 ที่ทำการปรับปรุงระบบ PvP อย่างมาก และได้เพิ่มมาสเตอร์คนที่ 8 เข้ามานั่นคือ: Leo Redmane, Master of the Arena การปรับปรุง PvP ครั้งนี้ทำให้เราได้จัดงานแข่งทัวร์นาเมนต์รับเชิญขึ้น ที่ซึ่งเราทำการออกอากาศทางช่อง Twitch (อายุสั้น) ของเราและแคสโดย WillywonkaHC และ GreenDude รับชมมันได้ที่นี่! ไอเดียของการสร้าง Bloodline คือ “Nemesis แต่เป็น‘แพค’ ” ส่วนสำคัญที่สุดก็คือการเพิ่มระบบรองรับมันเข้ามา ทำให้ “แพค” มีความหมายมากกว่าแค่การเสกมอนสเตอร์ ลีกนี้ยังมาพร้อมกับม็อดฆ่าผู้เล่นเหมือนกับตอนที่ทำ Nemesis ด้วย ระบบของ Torment แปลกออกจากระบบของลีกทั่วไป และพฤติกรรมของวิญญาณยังพัฒนายากอีกด้วย ซึ่งมันเป็นที่นิยมมากพอจึงได้เข้าสู่ระบบหลัก แถมยังมีการเกิดของพวกมันบ่อยเกือบเท่ากับสมัยที่เป็นลีกอีกด้วย ติดตามพวกเราในตอนที่ 2 ที่จะมาพูดถึงภาคเสริม Awakening ไปจนถึง Breach ได้สัปดาห์หน้าค่ะ! |
|
GGG i know you are hungry for the hard work but i don't think this word is ข้าวมันไก่ ข้าวมันไก่ is a rice steamed with chicken soup so i think the right word is นี่ยังเป็นหนึ่งของการคราฟและตลาดนั่นเอง i love your game i love your work so please keep continue your great work but this is gonna be a big meme in poe thailand comunity LUL.
The right word should be ข้าวมันไก่ = นี่ยังเป็นหนึ่งของการคราฟและตลาดนั่นเอง These are still a big part of item crafting and the economy = นี่ยังเป็นหนึ่งของการคราฟและตลาดนั่นเอง |
|
" LMAO my bad, that was meant to be "เพราะมันกลาย" My Builds: view-thread/2656038
http://poemaid.com |
|