ในลีก Ultimatum ของ Path of Exile เราได้เพิ่มผู้คุมบททดสอบ (The Trialmaster) ผู้ที่เป็นบุคคลอมตะอันลึกลับที่ต้องการท้าทายเอ็กไซล์ในนามของนายเหนือหัวของเขา เทพเจ้าวาล์ผู้หนึ่งอันมีนามว่าเคออส แมตต์ ไดเมอร์สกี ผู้ออกแบบการบรรยายของเรา ได้เขียนอธิบายเกี่ยวกับการสรรค์สร้างผู้คุมบททดสอบเอาไว้ค่ะ

---

คุณเป็นผู้เล่น Path of Exile คุณก้าวเข้าสู่ลีกใหม่ คุณจะได้พบกับ NPC ประจำลีกในทุก ทุก ด่าน หากผมอยากช่วยให้ประสบการณ์การเล่นมันเพลิดเพลินแล้วไม่จำเจ ผมจะทำอย่างไรได้ในฐานะผู้ออกแบบการบรรยายล่ะ? คำตอบนั้นอาจอยู่ที่การเข้าหาการทำซ้ำ แทนที่จะพยายามหลีกเลี่ยงการทำซ้ำเสียเอง ดังนั้นมันจึงออกมาในรูปของผู้คุมบททดสอบนั่นแหละครับ

ผู้คุมบททดสอบนั้นไม่ใช่เป็นครั้งแรกที่ Path of Exile ลองทำตัวละครที่มีลักษณะเฉพาะตัวที่สามารถจดจำการกระทำของผู้เล่นอย่างคุณ ลีก Betrayal มีระบบขั้นเดียวที่ NPC แต่ละคนจะมีคำพูดต่างกันไปตามการกระทำที่คุณได้ทำกับพวกเขาไปในครั้งสุดท้าย แต่ว่าพวกเขาจำอะไรไม่ได้มากไปกว่านั้น เพราะว่าการติดตามความสัมพันธ์ต่างๆ ของ 19 ตัวละครที่มีลักษณะต่างกันคงจะออกมาเละเทะไม่น้อย แต่พอเป็นผู้คุมบททดสอบแล้ว เขาเป็นผู้ที่มีความสัมพันธ์กับคุณอย่างใกล้ชิด และคุณย่อมจดจำความระทึกในชัยชนะของคุณกับความเจ็บปวดในความพ่ายแพ้ของคุณได้ดีครับ

กุญแจสำคัญในที่นี้ก็คือชัยชนะกับความพ่ายแพ้ ‘ของคุณ’ ผู้เล่นบางคนสังเกตว่าผู้คุมบททดสอบยังจำสถิติของคุณได้อยู่ แม้ว่าคุณจะสลับไปเล่นตัวละครอื่นก็ตาม นั่นเป็นเพราะว่าเขาไม่ได้พูดคุยกับตัวละครของคุณอยู่ครับ เขาคุยกับคุณอยู่ต่างหาก! หากคุณได้ดูการบรรยายของผมเกี่ยวกับปรัชญาการออกแบบการเล่าเรื่องที่งาน ExileCon มันก็มีช่วงหนึ่งตรงนี้ที่ผมบอกว่าผู้เล่นเป็น ‘ผู้ที่เป็นแห่งความโกลาหลอย่างแท้จริง’ นั่นหมายความว่าจากประชากรผู้เล่นทั้งหมด หากสิ่งใดนั้นมีความเป็นไปได้ ก็ย่อมมีผู้ที่ทำให้สิ่งนั้นเป็นไป เราจึงต้องนำความเป็นไปได้ทั้งหมดมาคิด เพราะมันสามารถเกิดขึ้นได้ และมันจะเกิดขึ้น

คุ้นๆ ไหมครับ? ผู้คุมบททดสอบรับใช้เทพเจ้าวาล์ผู้หนึ่งอันมีนามว่าเคออส (ความโกลาหล) ซึ่งเป็นผู้ที่มองเห็นความเป็นไปได้ทั้งหมดนี้ ผู้คุมบททดสอบได้บอกกับคุณตรงๆ ว่าเขากำลังท้าทายเอ็กไซล์คนอื่นๆ ในผลลัพธ์อื่นๆ แม้ว่าเขาจะคุยกับคุณอยู่ก็ตาม ในความเป็นไปได้ของเอ็กไซล์เหล่านั้น พวกเขาเป็นผู้ที่รอดจากเรืออับปาง ไม่ใช่คุณ เคออสเป็นผู้แรก (และอาจเป็นแค่ผู้เดียว) ในโลกแห่งเวร์แคลส์ทที่มองเห็นโครงสร้างของเส้นเวลาทั้งหลาย (Timelines Structure) ของเรา ที่ผู้เล่นทุกคนได้ทำการผจญภัยต่างกันในแต่ละโลกคู่ขนานที่ต่างกันไปครับ

ส่วนที่น่าสนุกที่สุดในด้านการเขียน: มันไม่ใช่การทำลายกำแพงที่สี่ (Fourth-wall หรือกำแพงที่แบ่งระหว่างโลกความจริงกับโลกของเกมหรือสื่อบันเทิงต่างๆ) ตามขนบธรรมเนียมทั่วไป แปลว่าเคออสกับผู้คุมบททดสอบไม่รู้ว่าที่จริงแล้วคุณเป็นใครกันแน่ พวกเขารู้เพียงว่ามีผู้หนึ่งในมิติอันสูงกว่าที่มีลักษณะคล้ายกับพวกเขาที่เริ่มเดินหมากในเวร์แคลส์ท บางครั้งคุณก็เป็นเรนเจอร์คนหนึ่ง บางครั้งคุณก็เป็นมอรอว์เดอร์คนหนึ่ง บางครั้งอำนาจจิตของคุณก็ย้อนกลับไปสู่อดีต ย้ายไปจากมืออาชีพผู้ฆ่าพระเจ้าที่ออกอาละวาดในสมุดแผนที่ไปสู่การเป็นคนใหม่ที่ฟื้นขึ้นมาที่ชายหาดอีกครั้ง ว่าง่ายๆ ว่าเคออสหลงใหลในตัวคุณมาก ซึ่งเรื่องนี้ถูกสื่อสารมาอย่างแยบยลนัก ส่วนเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างผู้คุมบททดสอบกับเจ้านายที่มองไม่เห็นที่เราตั้งใจปกปิดเอาไว้ ผู้เล่นที่มีไหวพริบจะสังเกตเห็นการบอกใบ้ว่าผู้คุมบททดสอบก็ไม่ได้พอใจกับสถานการณ์นี้นัก...

ผู้คุมบททดสอบถูกพากย์โดยเดวิด เด ลอทัวร์ (David de Lautour) ผู้ที่มีพรสวรรค์มากมาย เขาแสดงลักษณะอันแยบยลของตัวละครนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม ผู้คุมบททดสอบนี้มีอารมณ์ต่างๆ ที่แฝงไปด้วยประสบการณ์ตลอดเวลาหลายพันปี ทำให้มีโครงสร้างที่ตายตัวต่อเรื่องหลายๆ เรื่องนั่นเอง เขาต้องยอมรับในบางเรื่อง เขาต้องเกลียดชังในบางเรื่อง และเขายังมีความบันเทิงเริงรมย์อยู่ไม่กี่เรื่อง อย่างเช่นการได้เห็นเอ็กไซล์ผู้หนึ่งล้มเหลวอย่างน่าทึ่ง แต่มันก็มีบางช่วงที่เขาแสดงออกมาจากใจจริง ทั้งที่ปกติเขาเป็นผู้ที่ดำเนินชีวิตไปตามยถากรรมอย่างหมดหวังมายาวนาน อย่างเช่นตอนที่เอ็กไซล์ได้ชนะเป็นครั้งแรกหลังจากที่พ่ายแพ้ติดต่อกันมาหลายต่อหลายครั้ง ซึ่งทั้งหมดนี้จะทำให้เห็นว่าผู้คุมบททดสอบนั้นเป็นปรปักษ์ แต่ไม่ใช่ศัตรู แต่เรายังต้องดูกันต่อไปว่าเคออสจะเป็นเช่นนั้นไหม