ใน Path of Exile: Siege of the Atlas มีภัยคุกคามที่ล่วงเลยไปจากดวงดาวได้มาถึงเพื่อใฝ่หาการครอบครองสมุดแผนที่ แมตต์ ไดเมอร์สกี ผู้ออกแบบการบรรยายของเราได้เขียนภาพรวมจากมุมมองของเนื้อเรื่องของสถานการณ์ใหม่นี้ค่ะ



พวกมัน… กำลังจะมา

ทุกคนรับรู้ถึงคำเตือนของราชทูต ในช่วงปีที่ผ่านมา เอ็กไซล์ถูกบอกซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าเหล่าภัยสยองผิดธรรมชาติรับรู้ว่าเอลเดอร์หายตัวไป และพวกมันกำลังมา เมื่อมีการออกภาค Siege of the Atlas เราก็อ้างคำพูดของแครอล แอนน์จากโพลเตอร์ไกสต์ได้ว่า: “พวกมันมาแล้วววว”

หรืออย่างน้อย 4 ตนแรกก็มาถึง ผู้ผิดธรรมชาติทั้งหลายที่เราต่อสู้ในสมุดแผนที่นั้นรับใช้อำนาจที่สูงกว่า คล้ายกับการที่เอลเดอร์รับใช้อำนาจอันมีชื่อว่าการเสื่อมสลาย ดวงดาวสีดำกับอุปราชอาบเพลิงรับใช้อำนาจจักรวาลอันมีชื่อว่าอัคนีชำระล้าง ในขณะที่ความหิวโหยนับอนันต์กับผู้กลืนกินโลการับใช้อำนาจพัวพัน

ราชทูตให้ข้อมูลต่างๆ กับเราในวิธีเฉพาะตัวว่าทำไมเราถึงเผชิญหน้ากับบอส 4 ตัวนี้ แทนที่จะถูกทำลายโดยทันทีด้วยน้ำมือของอำนาจจักรวาลที่พวกมันรับใช้ เขาพูดถึงแนวคิดของการดิ้นรน ซึ่งเป็นการที่อำนาจที่มหาศาลยิ่งอย่างเช่นอำนาจพัวพันหรืออัคนีชำระล้างไม่สามารถปะทะกันได้โดยตรง ไม่เช่นนั้นมันจะทำให้ ‘ห้วงจักรวาลขาดสะบั้น’ แต่ความขัดแย้งนั้นถูกจัดการผ่านการประลองด้วยวีรชนที่มีชีวิต พวกเขาเหล่านี้สามารถต่อกรกันได้โดยไม่เกิดการทำลายความเป็นจริง

ในแง่นั้น เอ็กไซล์ถูกคิรัคกำกับให้ทำหน้าที่เป็นวีรชนของเมเวน หากไม่มีพวกเรา เธอย่อมพ่ายแพ้ให้กับผู้ผิดธรรมชาติที่เก่าแก่และทรงพลังกว่า และหากไม่มีเธอ เราย่อมไม่มีผู้ที่เป็นเจ้าของสมุดแผนที่ เพราะเราไม่มีค่าใดๆ ในสายตาของพวกมัน อำนาจพัวพันกับอัคนีชำระล้างย่อมเคลื่อนที่เข้ามากลืนกินทุกอย่างจนสิ้น พวกเราย่อมไม่อาจสยบร่างที่แท้จริงของพวกมันได้ ไม่ว่าเราจะรวบรวมพละกำลังหรือพลังอำนาจมามากเท่าไรก็ตาม

พูดถึงร่างที่แท้จริงของพวกมัน คำบรรยายของราชทูตและถ้อยคำอรรถรสบนไอเทมยูนิคชิ้นใหม่ๆ นั้นให้ภาพที่น่าสยดสยองเป็นอย่างยิ่ง เหมือนว่าอัคนีชำระล้างจะเป็นสมองขนาดมหาศาลที่ประกอบไปด้วย ‘ดวงตะวันอันลุกโชนกับดวงดาวสีดำ’ และใช้เวลาศึกษาความรู้อย่างหิวกระหายมาชั่วนิรันดร์ แลกไปกับการทำลายล้างทุกอย่างที่มันศึกษา เหมือนว่ามันจะเก็บห้องสมุดแห่งจิตใจเอาไว้ ไม่ยอมให้พวกที่มันทำลายล้างนั้นสิ้นตัวตนไปแม้แต่น้อย ขณะเดียวกัน อำนาจพัวพันเป็นมวลสารสิ่งมีชีวิตอินทรีย์อันน่าสยดสยองที่ถูกผสานเข้าด้วยกัน โดยสิ่งมีชีวิตแต่ละตนพยายามดึงและตะกุยตัวเองออกจากมวลสารนั้นชั่วนิรันดร์เพื่่อให้รอดพ้นจากความเจ็บปวด และไล่ตามความสุขเพียงเล็กน้อยที่สุดด้วยการกลืนกินเพื่อให้หลงลืมความเจ็บปวดจากการมีตัวตนอันแสนเลวร้ายไปได้ ยิ่งเหล่าผู้ที่ติดอยู่ในอำนาจพัวพันเอื้อมออกมาเท่าไร ก็ยิ่งมีสิ่งมีชีวิตที่ถูกดูดกลืนเพิ่มขึ้น ยิ่งทำให้มวลสารทั้งหมดนั้นเจ็บปวดและมีความแตกแยกกันยิ่งขึ้น ว่าง่ายๆ ว่าการตายย่อมดีกว่าการเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของเหล่าผู้ผิดธรรมชาติอันแสนสยองเหล่านี้เป็นแน่ครับ

แต่เราทำการออกแบบมาเป็นเช่นนี้ได้ยังไง? เรารู้ว่าพวกมันจะเข้ามานานแล้ว เพราะว่าราชทูตนั่งรออยู่ในห้องเบรก ให้คำเตือนอันยืดยาวทุกครั้งที่เราเข้าไป เราจึงเริ่มทำรายการผู้ผิดธรรมชาติอันสยดสยองที่มีแรงจูงใจต่างกันไปจำนวนมหาศาล มันอาจจะเป็นห้วงจักรวาลเลิฟคราฟต์ก็เป็นได้ เป็นที่ที่มนุษยชาติไม่มีความหมาย และทุกภพนั้นเต็มไปด้วยอำนาจพื้นฐานที่ปรากฏของผู้ผิดธรรมชาติมหาศาล แต่ความเป็นจริงของการออกแบบทำให้เราต้องเลือกเพียงผู้หนึ่งหรือสองผู้สำหรับแพทช์ 3.17 และปล่อยให้ผู้ที่เหลือยังไม่ปรากฏในตอนนี้ อำนาจพัวพันกับอัคนีชำระล้างถูกเลือกไว้ตั้งแต่แรกเริ่ม และมีลักษณะที่ต่างกันพอสมควรในตอนแรก ธีมของพวกเขานั้นยังคงเส้นคงวา แต่ลุครูปร่างหน้าตาถูกพัฒนาพอสมควร ในเมื่อศิลปะกับเนื้อเรื่องของพวกมันนั้นเข้าที่เข้าทางแล้ว ในเมื่อไม่มี NPC หรือแท่นใดที่บอกเล่าเนื้อเรื่อง งานหนักจึงตกอยู่กับธีมและอรรถรสของไอเทมยูนิคของพวกมัน เอ็กไซล์ที่เน้นไอเทมอาจสังเกตว่าไอเทมยูนิคที่ดรอปจากบอสสูงสุดนั้นเชื่อมโยงกับธีมเป็นอย่างดี รอบนี้ไม่มีที่ให้กับไอเทมยูนิคอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกัน!

แน่นอนว่าเมเวนลอยอยู่เหนือออฟฟิศ ร้องขอสิ่งต่างๆ ไปตลอดกระบวนการนี้ ในการต่อสู้กับบอสสูงสุด เรามอบบทพูดระดับที่ 6 ให้กับเธอที่สามารถปลดล็อกได้ด้วยการสยบเธอในภารกิจเนื้อเรื่องของเธอ นั่นแปลว่าเธอจะได้จดจำสิ่งที่เธอเรียนรู้จากการพ่ายแพ้ครั้งนี้ และไม่ใจจืดใจดำต่อเอ็กไซล์ของเรามากนัก ผู้เล่นที่หลักแหลมอาจสังเกตว่าเธอเป็นผู้ผิดธรรมชาติตนเดียวที่ยอมรับในตัวตนของเรา บอสสูงสุดพูดคุยกับเธอเพียงเท่านั้น ไม่ได้พูดคุยกับเรา เราอยู่นอกเหนือการสังเกตของพวกมัน โชคดีที่ความสัมพันธ์กับเมเวนทำให้เราสามารถเข้าใจภาษาผิดธรรมชาติที่พวกมันใช้ ไม่งั้นเราก็ไม่สามารถเข้าใจได้เมื่อมันพูดท่าการโจมตีที่พวกมันกำลังจะใช้! ตอนแรกเราวางแผนที่จะทำให้เอ็กไซล์มีบัฟที่พวกเขาสามารถชี้เมาส์เพื่อให้เห็นว่าเมเวนจงใจมอบความสามารถในการทำความเข้าใจให้กับพวกเขา แต่มันไม่ผ่านกระบวนการการออกแบบซ้ำของเรา

เมื่อถึงช่วงท้ายเนื้อเรื่องหลักภาค Siege of the Atlas ในปัจจุบัน เอ็กไซล์ทำให้ทหารกองหน้าพลเมืองได้พักเพียงชั่วครู่ แต่ราชทูตกล่าวไว้อย่างชัดเจนว่าสงครามนี้ยังไม่เข้าใกล้จุดจบแม้แต่น้อย อำนาจพัวพันกับอัคนีชำระล้างเป็นเพียงผู้ผิดธรรมชาติ 2 ตนภายในจักรวาลที่เต็มไปด้วยภัยสยองที่ ‘มีมากกว่าดวงดาว’ และอย่างที่คิรัคพูดเอาไว้ เหล่าทหารอาสาที่ผ่านการฝึกแบบครึ่งๆ กลางๆ เอ็กไซล์คนหนึ่ง กับตัวอ่อนโรคจิตเป็นเพียงไม่กี่สิ่งอย่างที่ยืนหยัดระหว่างมนุษยชาติกับชะตากรรมอันเหนือจินตนาการ
โพสต์โดย 
เมื่อ
Grinding Gear Games

รายงานโพสต์

รายงานบัญชี:

ประเภทรายงาน

ข้อมูลเพิ่มเติม