แมตต์ ไดเมอร์สกี นักออกแบบการเล่าเรื่องระดับอาวุโสของเรามาเล่าเรื่องการเขียนเนื้อเรื่องสำหรับลีก Settlers of Kalguur มาให้คุณได้อ่านกันไว้ดังนี้ค่ะ
การออกแบบบริบทการเล่าเรื่องสำหรับลีก Settlers of Kalguur เป็นโปรเจกต์ที่น่าสนใจไม่เบา เนื้อหาใหม่นี้อาจเป็นเนื้อหาที่ ‘เข้ากับของเก่า’ มากที่สุดแล้ว เรารู้จักตัวละครส่วนใหญ่ดิบดี คนที่ได้เห็น Path of Exile 2 ก็น่าจะสังเกตได้ว่ามีผู้เล่นวิ่งไปมาในคิงส์มาร์ชใน 20 ปีข้างหน้า นี่เป็นการขยายเนื้อเรื่องที่มีอยู่ในปัจจุบัน และเป็นการปูเนื้อเรื่องสำหรับเรื่องราวในอนาคต ลีกบางลีกผมต้องทำการเล่าเรื่องเกี่ยวกับสิ่งที่ไม่มีใครเคยพบเจอมาก่อน แต่ลีกนี้ผมต้องสร้างจิ๊กซอว์ชิ้นหนึ่งที่เข้ากับทุกด้านได้ทุกกระเบียดนิ้ว พวกคาลเกอร์ที่เราพบเจอมีเรื่องราวที่แฝงความตึงเครียดบางอย่างเอาไว้ หากมองอย่างผิวเผิน พวกเขามาที่นี่เพื่อขุดค้นและค้าขาย แต่กลับมีความกระวนกระวายอยู่เสมอเมื่อพูดถึงประเด็นบางอย่าง และผมได้ทำการสำรวจประเด็นนี้อย่างเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้นภายในลีก Settlers ตัวละครชาวคาลเกอร์ทุกคนต่างมีชีวิตที่ได้รับอิทธิพลมาจากกษัตริย์ของพวกเขาทั้งนั้น เมื่อคุณได้ใช้เวลาร่วมกับพวกเขาหรืออ่านจดหมายของพวกเขามามากพอ คุณจะเห็นความสัมพันธ์ต่างๆ ที่เผยออกมาอย่างช้าๆ หรือกระทั่งทางเลือกที่พวกเขาเคยเลือกเอาไว้ก็เป็นได้ อย่างที่ฟาวทัสว่าไว้ละครับ มีเงาอัปมงคลที่ทอดยาวขึ้นไปทุกเมื่อเชื่อวัน และมันย่อมบดบังท้องฟ้าในไม่ช้าก็เร็วเป็นแน่ พูดถึงฟาวทัสแล้ว ผมคิดไว้แต่แรกว่าจะนำคิงส์มาร์ชเข้ามาร่วมกับโลกที่เรามีอยู่ในปัจจุบัน ฟาวทัสกับไอล่าทำหน้าที่ได้เหมาะสมนัก การปรากฏตัวของพวกเขาจะเป็นการตอบคำถามในเรื่องที่ผมอยากขยายความไว้ตั้งแต่ลีก Heist ถ้าโลกโกลาหลอลหม่านขนาดนี้ แล้วโจรพวกนี้จะไปปล้นมาจากใครกันได้ล่ะ? ในที่สุดเราก็มาถึงตรงนี้ ตรงที่มีอารยธรรมและการตั้งตัวกันใหม่ เมืองท่าเติบโต การแลกเปลี่ยนให้กำไรดี บางทีเวร์แคลส์ทอาจไม่ได้มีแค่ซอมบี้กับแดนรกร้างนะ! ลีกนี้มีข้อจำกัดที่น่าสนใจอีกอย่าง นั่นคือกลไกชนิดใหม่ที่เราไม่เคยลองมาก่อน เราไม่อยากสร้างเควสต์เนื้อเรื่องที่ครอบคลุมเมืองนี้ไว้ เพราะการสร้างเมืองระยะยาวย่อมกินเวลายาวนานกว่าเควสต์ที่เราสร้างได้แน่ๆ งานนี้จึงต้องเป็นเรื่องของ ‘ฉาก‘ มากไปกว่า ‘การผจญภัย’ เราจึงมุ่งมั่นให้เมืองนี้น่าเยือนน่าอยู่ เราจึงอัพเกรดการพูดคุยกันยามว่างขึ้นมา และมีการทักทายชนิดใหม่ที่เราอาจนำไปใช้ในอนาคต นั่นคือการที่ NPC ทักทายคุณเมื่อคุณเข้าใกล้ แทนที่จะพูดตอนที่คุณเปิดกล่องบทสนทนาขึ้นมา มันดูเป็นธรรมชาติสุดๆ แต่เราจะต้องออกแบบพื้นที่ในเมืองอย่างดิบดีให้รองรับกับระบบนั้นได้แน่ มันคงให้ความรู้สึกไม่เหมาะสักเท่าไรหากพวกเขาอยู่ใกล้กันเกินไปหรือทริกเกอร์ตอนที่คุณเดินผ่าน นอกจากนี้เรายังอัดบทสนทนาสำหรับระบบการสนทนาอย่างในลีก Trial of the Ancestors ด้วย โดยให้มี NPC บางคนแวะเข้ามาในโรงเหล้าในบางครั้ง หรือไม่ก็พูดคุยกับ NPC ที่อยู่ใกล้กับพวกเขา แต่โชคร้ายที่โครงเมืองของคิงส์มาร์ช ระยะห่าง และการตระหนักว่าพวกเขาคงจะอยู่ไกลกันเกินไป ทำให้ระบบนั้นไม่เป็นผลขึ้นมา และมันคงจะน่าหงุดหงิดพอสมควรหาก NPC บางคนดันไปอยู่ในโรงเหล้าแทน ผมนึกมีมขึ้นมาได้เลย ‘ทูเจนขี้เหล้า มันจะอยู่ในโรงเหล้าเสมอหากนายแวะไปที่ท่าเรือก่อน’ โชคร้ายที่ระบบการสนทนาระหว่าง NPC ถูกพับไว้ในตอนนี้ ผมจะลองระบบนี้ในเนื้อหาใหม่ๆ อีกครั้งในอนาคต และทำการอัพเกรดระบบที่ใช้ได้จริง ผมคิดว่าสิ่งที่เราพัฒนาเอาไว้ตรงนี้เป็นโอกาสที่ดี นั่นก็คือบริการที่แยกออกจาก NPC แล้วตั้งไว้ข้างๆ พวกเขาอย่างเครื่องเปิดแผนที่หรือเครื่องผสม หากบริการนี้ยังใช้การได้จากเครื่องที่อยู่ใกล้พวกเขาแต่ยังทริกเกอร์หรือมีบทสนทนาขึ้นมาได้ NPC ก็จะมีอิสระในการเดินไปมาหรือทำอะไรที่เหมือนชีวิตจริงยิ่งขึ้นในสภาพแวดล้อมรอบตัว เราทำเรื่องนั้นได้เยี่ยมใน Path of Exile 2 แล้วละ ผมอยากเห็นจริงๆ ว่าเราจะนำเรื่องนี้ไปได้ไกลขนาดไหน โดยรวมแล้วผมก็ดีใจที่คิงส์มาร์ชออกมาเป็นแบบนี้ ทุกรายละเอียดแฝงไว้ด้วยความคิด ยิ่งคุณอยู่ที่นั่นนานเท่าไร คุณอาจยิ่งสังเกตหรือเข้าใจอะไรๆ ได้มากขึ้น มันเป็นจุดเริ่มต้นในการเริ่มเรื่องเล่าขานได้ดี และเราจะต้องใช้เรื่องนั้นในภายภาคหน้า แถมในที่สุดผมไม่ต้องบอกว่า ‘รอติดตามชม’ อีกต่อไปแล้วละ เพราะ Path of Exile 2 จะเข้ามาในเร็วๆ นี้แล้ว! อดใจรอไม่ไหวแล้วนะ! |
|