วันนี้เราจะมาแชร์ตอนสุดท้ายของซีรี่ย์สัมภาษณ์ Hrishi เกี่ยวกับการออกแบบจิวเวล Legion กันนะคะ และถ้าหากใครพลาดตอนที่หนึ่งและตอนที่สองสามารถอ่านได้ ที่นี่ และ ที่นี่ ค่ะ

เทมพลาร์

The Agnostic


คีย์สโตนนี้มีประวัติยาวนานกว่าเพื่อนโดยมีไอเดียเริ่มต้นมาตั้งแต่การพัฒนาของ Delve
Hale Negator ในตอนแรกเราตั้งใจจะให้มีม็อดพิเศษเฉพาะตัว แต่ทว่า มีปัญหาใหญ่เกิดขึ้นเมื่อเรานำม็อดไปไว้ในไอเทมนี้เราจึงดองมันไว้ก่อน

พอนึกถึงคีย์สโตนแนวเทมพล่า ผมก็กลับมาคิดถึงม็อดนี้ที่ดองไว้และตั้งคำถามว่ามันจะเป็นไปได้ไหม ผลปรากฏว่า สิ่งที่กีดกันไม่ให้สามารถทำได้ในตอนนั้นคือความเกี่ยวพันระหว่างโล่พลังงานกับการรับความเสียหาย แล้วเมื่อเรานำโล่พลังงานออกไปทั้งหมด เราก็สามารถทำมันได้ และแน่นอนเราก็จัดเต็มได้ด้วยเพราะการทำให้พลังชีวิตและมานาเยอะไปพร้อมๆกันไม่ได้ทำได้ง่ายๆ

คอนเซ็ปนี้จริงๆก็แค่อยากให้คุณใช้มานามาฮิลให้พลังชีวิตเวลาโดนความเสียหาย เพื่อที่จะใช้ประโยชน์จากการฟื้นฟูมานาได้อย่างเต็มที่นั่นเอง

Inner Conviction


ไอเดียของคีย์สโตนนี้น่าจะเป็นไอเดียแรกๆเลยก็ว่าได้ เราเคยพูดคุยกันเกี่ยวกับไอเดียนี้ให้มันเป็นคีย์สโตนจริงๆมานานมากแล้ว แต่ก็ถูกเก็บเข้ากรุเนื่องจากเหตุผลหลายๆอย่าง ถ้าพูดถึงไอเดียแล้ว คีย์สโตนนี้ออกแบบมาสำหรับสายเวทย์เป็นหลัก แต่การสูญเสีย frenzy charge ก็เจ็บเอาเรื่องอยู่เช่นกัน แต่ผลตอบแทนก็มีเช่นกันหากคุณลงทุนกับ power charge อย่างเต็มที่

Power of Purpose


ผมชอบความสามารถในการแปลงสิ่งหนึ่งไปเป็นสิ่งหนึ่งของคีย์สโตนมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว มันคือเหตุผลที่ Iron Reflexes เป็นหนึ่งในคีย์สโตนที่ผมชอบที่สุด! อันนี้ก็ใช้คอนเซ็ปคล้ายๆกัน โดยมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเพื่อแก้ไขปัญหาที่มีเฉพาะกับมานาเท่านั้น

แน่นอนว่าการมีมานาเยอะๆนั้นยากกว่าเกราะมาก ผมจึงอยากให้อัตราส่วนมากกว่า 1:1 และผมก็ไม่อยากให้คุณสูญเสียมานาไปเลยเช่นกันเพราะนั่นเป็นการบังคับให้คุณต้องใช้ Blood Magic ซึ่งจะกลายเป็นการทำผิดกฎของคีย์สโตนที่ดีที่ผมตั้งไว้ ผลที่ได้ก็คือ เราก็แค่นำมานาจำนวนมากมาแปลงเป็นเกราะแทน คุณจึงต้องแก้ปัญหาการมีมานาน้อยแทน

จักรวรรดินิรันดร

Supreme Decadence


คีย์สโตนนี้น่าจะเป็นคีย์สโตนที่ใช้เวลาพัฒนานานที่สุดในรายการนี้แล้ว ในตอนแรกมันเริ่มจากอะไรที่ไม่เหมือนกันอย่างสิ้นเชิง มีเหมือนกันเพียงแค่ความเกี่ยวข้องกับขวดยาเท่านั้น

ลดผลของขวดยา อีก 50%
ขวดยาส่งผลต่อเพื่อนที่อยู่ใกล้ด้วย

ในตอนนั้นมันก็ฟังดูสนุกและเข้าใจง่ายดี แต่ก็มีปัญหาเกิดตามมามากมาย นอกจากที่มันจะยากมากที่ผู้เล่นจะเข้าใจว่าผลของยาแบบไหนที่สามารถส่งผลต่อเพื่อนได้แล้ว มันยังมีความเป็นไปได้ที่จะมีคนเอามาเกรียนด้วยการฆ่าเพื่อนในปาตี้ด้วยยายูนิคบางชนิดอีกด้วย

เพราะงั้นเราจึงต้องคิดใหม่ เราไม่สามารถปล่อยให้มันมีปัญหาทั้งอย่างนั้นได้ แล้วเมื่อได้ระดมสมองกันหลายครั้งเราก็ได้ข้อสรุปมาเป็นอะไรที่ดูดีมากในความคิด แต่ในทางปฏิบัติไม่สามารถรู้ได้เลยว่ามันจะสนุกจริงหรือไม่ เราจึงลองทดสอบดูก่อน ตอนที่ทดสอบมันมีม็อดตามนี้

เพิ่มระยะเวลาของยาที่ไม่ใช่ยูนิค 200%
หยุดผลของยาทุกชนิดเมื่อคุณใช้งานยาใดๆ

เรามีแนวคิดอยากให้คุณสามารถมีขวดยาบัฟที่อยู่ได้นานมากๆแต่แรกมาด้วยการไม่สามารถมีผลของยาพร้อมกันได้เกินหนึ่งขวด ในทางทฤษฎีมันก็ดูดี แต่ในทางปฏิบัติแล้วมันมีผลข้างเคียงเป็นความโคตรโกงเกิดขึ้น หนึ่งในนั้นก็คือ บิลด์ที่ใช้ Soulthirst โหดจัดจากระยะเวลาของยาที่นานนรกแบบนี้ และอีกอย่างก็ คุณสามารถยกเลิกข้อเสียของยายูนิคบางประเภทได้ด้วย แต่ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดก็คือ มันดูใช้แล้วไม่ค่อยสนุกเอาเสียเลย เราจึงต้องกลับไปที่กระดานออกแบบกันอีกครั้ง

ผมลองทำคีย์สโตนที่มีข้อเสียเป็นการไม่ได้รับชาร์จยาจากการสังหารเป็นระยะเวลาหนึ่ง แต่ปัญหาหลักก็คือ Pathfinder ทำสิ่งที่ผมอยากทำได้อยู่แล้วและดีกว่าด้วย โดยไม่มีข้อเสียอีกด้วย

และในที่สุด ระหว่างการระดมสมองหาไอเดียเกี่ยวกับยา มีคนพูดขึ้นมาว่าเรามีเอฟเฟค “คีย์สโตน” ที่ทำไว้แล้วอยู่นะ ซึ่งเป็นช่วงที่เรากำลังปรับยายูนิค Sorrow of the Divine กันอยู่ และนึกขึ้นได้ว่าม็อดใหม่ที่เราเพิ่มเข้าไปมันเปลี่ยนแปลงกฎพื้นฐานของเกมและสามารถนำมาทำเป็นคีย์สโตนได้ดีเลย แถมเรายังทดสอบกับไอเทมยูนิคเองแล้วด้วยซึ่งพบว่ามันทำให้มีวิธีการเล่นแบบใหม่ที่ดูเท่ดี เราจึงทำการดัดแปลงมันลงไว้ในคีย์สโตนพร้อมใส่ข้อเสียให้มันเพื่อให้ Sorrow of the Divine ยังเป็นไอเทมที่ดีกว่าอยู่บ้าง

Supreme Grandstanding


คีย์สโตนเป็นคีย์สโตนแรกๆที่เราออกแบบในเอกสารคีย์สโตนที่มีมลทิน และอย่างที่ทุกคนพอจะเดาออกว่า เริ่มแรกมันถูกออกแบบมาใช้เป็น Vaal Conduit ซึ่งเป็นหนึ่งในคีย์สโตนที่ผมคิดว่า “สนุก” จากเซ็ตต้นแบบและคิดว่าน่าจะใช้การได้ดีที่นี่ คีย์สโตนนี้อาจจะไม่โหดจัดในตัวมันเองแต่ก็ทำให้สามารถหาชาร์จได้ง่าย ซึ่งผมก็ชอบข้อเสียที่มาพร้อมกับมันด้วยเช่นกัน เพราะมันเป็นทั้งข้อดีและข้อเสียในการหาชาร์จนั่นเอง!

Supreme Ego


เราอยากจะทำเอฟเฟค “เห็นแก่ตัว” เกี่ยวกับออร่ามานานแล้ว แล้วเมื่อคิดขึ้นได้ว่าเราจะทำคีย์สโตนของฝ่ายจักรวรรดินิรันดรมันก็ดูเป็นโอกาสเหมาะเหม็ง เดี๋ยวนี้การเปิดออร่าจำนวนมากเป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไป ผมจึงอยากทำคีย์สโตนสำหรับคนที่ต้องการเปิดออร่าแรงเต็มสูบเพียงออร่าเดียว

ปัญหาก็คือเราจะต้องห้ามไม่ให้ผู้ใช้เปิด ประกาศักดิ์(Herald) หรือเอฟเฟคอื่นๆที่สำรองมานาได้ เพราะถ้าไม่ทำอย่างนั้นมันก็ไม่ต่างจากเดิมเลย เพราะคนส่วนใหญ่ก็มักจะเปิดออร่าหนึ่งอย่างกับประกาศักดิ์อีกหนึ่งอย่างอยู่แล้ว การบังคับให้เหลือเพียงออร่าเดียวไม่ได้มีประโยชน์อะไรในกรณีแบบนี้ ท้ายที่สุดแล้ว เราจึงเลือกใส่ข้อเสียง่ายๆลงไปคือการเพิ่มมานาสำรองสำหรับทุกๆอย่างขึ้นเยอะๆเพื่อที่คุณจะต้องลงทุนกับการลดมานาสำรองจึงจะสามารถเปิดได้มากกว่าหนึ่งออร่า!

พาสซีฟขนาดกลาง, เล็ก, และ ค่าคุณสมบัติ

เอาล่ะ หลังจากที่เราใช้เวลาอยู่นานเพื่อจัดเรียงรายการคีย์สโตนของแต่ละกองพันและสิ่งที่พวกมันทำ แต่ท้ายที่สุดแล้ว คีย์สโตนก็ไม่สามารถถูกใช้ได้อย่างกว้างขวางเนื่องจากข้อเสียของพวกมัน มันอาจจะทำให้เกิดบิลด์ใหม่ๆที่น่าสนใจขึ้นมา ใช่อยู่ แต่ถ้าเราอยากจะใช้จิวเวลกับบิลด์เดิมที่มีอยู่แล้วล่ะ? กรณีนี้ แน่นอนว่า ส่วนที่เหลือของตารางก็สำคัญเช่นกัน

โดยแก่นแท้ของมันแล้ว เราต้องคิดให้ออกว่าจิวเวลทั้งห้ากองพันจะเปลี่ยนพาสซีฟอย่างไร แล้วจะดีที่สุดถ้าแต่ละอันเปลี่ยนแปลงพาสซีฟไม่เหมือนกันอย่างเห็นได้ชัดเจน ในทางปฏิบัติ มันมีวิธีเปลี่ยนพาสซีฟในตารางไม่กี่วิธี แต่เราก็ยังมุ่งมั่นที่จะหาวิธีทำให้จิวเวลแต่ละอันให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันครับ

ในส่วนนี้ เราได้หารือกันและใช้กระดานไวท์บอร์ดวาดตารางขนาดยักษ์ขึ้นมา ในตารางเราได้จดทุกวิธีการที่เราจะสามารถเปลี่ยนพาสซีฟได้ มีทั้ง “เพิ่มม็อดแบบสุ่ม”, “เปลี่ยนพาสซีฟไปเป็นพาสซีฟอื่นแบบสุ่ม”, “สร้างพาสซีฟใหม่ขึ้นมาที่มีม็อดแบบสุ่ม”, “พาสซีฟเปล่า” ฯลฯ และจากรายการขนาดยักษ์นี้ก็เหลือแต่ต้องมาเลือกว่าม็อดแบบไหนเหมาะกับกองพันใด พูดง่ายๆก็คือ เราพยายามที่จะรักษากลิ่นอายของแต่ละกองพันเอาไว้ให้ได้มากที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ครับ

วาล์
กองพันนี้เป็นกองพันที่ง่ายที่สุดและเป็นกองพันแรกที่เราทำเสร็จ ซึ่งก็แน่นอน เพราะว่าคอนเซ็ปทั้งหมดเริ่มต้นมาจากแนวคิดว่ากองพันนี้จะทำอะไรกับตารางพาสซีฟได้ ซึ่งก็ไม่แปลกที่เราจะรู้ทันทีว่าจิวเวลประจำกองพันจะทำอะไรกับพาสซีฟ การสุ่มอย่างหนัก คือหัวข้อของมัน พาสซีฟทุกอันไม่ว่าจะเล็กกลางหรือค่าคุณสมบัติ จะถูกแทนที่ด้วยพาสซีฟใหม่อย่างสุ่มในระดับเดียวกัน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ กองพันนี้เป็นเพียงกองพันเดียวที่จะถูกสุ่มแม้แต่ค่าตัวเลขบนม็อดของพาสซีฟ! เราพยายามจะทำให้ได้ความรู้สึกของการมีมลทินให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

คารุย และ มาราเคะ
หลังจากที่เราได้พัฒนาจิวเวลของฝั่งวาล์เสร็จไปแล้ว มีปัญหาที่เราคิดว่าเราจะได้เจออยู่หนึ่งอย่างนั่นก็คือความยากในการตัดสินว่าจิวเวลนี้เหมาะกับคุณหรือไม่ เพราะมันนำม็อดออกไปเยอะเหลือเกิน! และด้วยเหตุนี้ เราจึงคิดว่าควรมีจิวเวลของบางกองพันที่เข้าใจง่ายไว้ด้วย

เราเลือกคารุยและมาราเคะเป็นจิวเวลที่จะไม่นำอะไรไปจากคุณและจะเพิ่มม็อดลงในพาสซีฟเท่านั้น จากความรู้สึกประจำกองพันเราเลือกเพิ่ม STR สำหรับคารุย และเพิ่ม DEX สำหรับมาราเคะ และแน่นอนว่าม็อดที่เพิ่มให้พาสซีฟขนาดกลางนั้นจะว๊าวกว่าแค่เพิ่มคุณสมบัติอย่างแน่นอน และมีบางอันพิเศษกว่าใครด้วย โดยเฉพาะมาราเคะ

เป็นที่น่าเสียดายที่เราไม่สามารถทำจิวเวลสำหรับสาย INT ได้แต่ก็ไม่ถึงกับโลกแตกหรอกนะ เราคิดว่าเราไม่ควรที่จะตีกรอบตัวเองแบบนั้นและมีความรู้สึกว่ามันไม่จำเป็นต้องเต็มวง ด้วยเหตุนี้จิวเวลกองพันที่เหลือจะให้ความรู้สึกที่แตกต่างขึ้นอีกด้วย

จักรวรรดินิรันดร
ถ้าคารุยและมาราเคะจะเพิ่มม็อดเข้าไปในตาราง การมีสิงโตกันข้ามนั่นก็คือเอาม็อดออกไปก็ไม่ใช่เรื่องแปลก และแน่นอนถ้ามันแค่เอาออกอย่างเดียวก็คงไม่มีใครใช้ เราจึงคิดแผนการสร้างพาสซีฟขนาดกลางทรงอานุภาพมาแทนที่พาสซีฟขนาดเล็กที่สูญเสียไป

แม้ว่าในช่วงแรกเราจะยังไม่มั่นใจ แต่เมื่อเราพัฒนาไปเรื่อยๆก็ทำให้รู้ว่า การตัดสินใจใช้จิวเวลแบบนี้นั้นง่ายมาก เพราะสิ่งเดียวที่คุณต้องทำก็แค่เอาเมาส์ไปชี้พาสซีฟขนาดกลางดูว่ามันได้อะไรก็เท่านั้นเอง แน่นอนว่า การสูญเสียพาสซีฟขนาดเล็กไปเป็นสิ่งที่โหดร้าย แต่หวังว่าพาสซีฟทรงอานุภาพที่ได้มาแทนจะเอาไปใช้กับบิลด์ของทุกคนได้!

เทมพลาร์
ในระหว่างที่กำลังคิดอยู่ว่าจะเอายังไงกับเทมพลาร์ดี ก็มีคนเสนอไอเดียใหม่เรื่องค่าคุณสมบัติสมมุติที่เรียกว่า “Devotion” แนวคิดให้คุณสะสมค่า Devotion นี้เพื่อที่จะได้รับพลังนั้นมีความเกี่ยวโยงกับนักรบแห่งกองพันเทมพลาร์เป็นอย่างมาก และหลังจากนั้น เราก็แค่ต้องหาวิธีทำให้จิวเวลนี้มีความแตกต่างเท่านั้นเอง

เราคิดมาโดยตลอดว่า Watcher's Eye เป็นยูนิคที่ประสบความสำเร็จในแง่ของความหลากหลายในไอเทมยูนิคชิ้นเดียว แล้วเพื่อที่จะทำให้จิวเวลยูนิคนี้มีความแตกต่าง เราคิดว่าเราควรใส่เนื้อหาสำคัญลงไปในตัวจิวเวลเอง และทำม็อดอื่นๆที่มาดูจำนวน Devotion ที่คุณมีแทน จึงทำให้จิวเวลนี้มีม็อดพิเศษสองม็อดแล้วถ้าต้องการเพิ่มความสามารถให้กับตัวละครของคุณอย่างเต็มที่ คุณก็จะต้องมีม็อดที่ตรงและค่าตัวเลขที่ตรงด้วย (หาได้จากการกด Divine อย่างแน่นวล!)

แต่มันยังขาดอะไรไปบางอย่าง แม้ว่ามันจะดูเท่ที่ได้เห็นค่าสถานะต่างๆถูกเปลี่ยนเป็นค่า “Devotion” การมีส่วนร่วมกับตารางพาสซีฟที่เหลือดูจะขาดอะไรไป และเพื่อที่จะเพิ่มอะไรพิเศษเข้าไป เราได้เพิ่มพาสซีฟเทมพลาร์ขนาดกลางที่มีโอกาสมาแทนที่พาสซีฟกลางที่มีอยู่แล้วในตาราง พาสซีฟเหล่านี้มีความพิเศษตรงที่พวกมันจะทำงานก็ต่อเมื่อคุณมีจำนวน Devotion ถึงเกณฑ์แล้วเท่านั้น ซึ่ง ก็ต้องบอกว่า เข้ากับบทบาทได้อย่างดีเยี่ยม!

ความคิดทิ้งท้าย

เมื่อหลายปีก่อนที่ผมได้สร้างคีย์สโตน Mind Over Matter ขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ ผมดีใจมากที่การออกแบบของผมมีผลต่อรากฐานของเกม และหลังจากนั้น ผมก็อยากจะสร้างคีย์สโตนมาโดยตลอด และผมไม่คิดไม่ฝันมาก่อนว่าผมจะมีโอกาสได้สร้างมันเยอะขนาดนี้ในทีเดียว ผมหวังว่าคีย์สโตนเหล่านี้จะเปิดประตูสู่ความเป็นไปได้ใหม่และสร้างความหลากหลายของบิลด์ขึ้น และผมหวังอย่างแท้จริงว่าจิวเวลชุดนี้จะมอบตารางพาสซีฟแบบใหม่ที่น่าสนใจให้กับทุกคนได้ทดลอง แต่เหนือสิ่งอื่นใด ผมหวังว่าทุกคนจะสนุกกับการเล่นมัน, หาวิธีใช้พวกมัน ได้เท่ากับที่ผมสนุกกับการออกแบบมันครับ